วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
ทิศทางการดำเนินงาน
ปรัชญา
เปิดโอกาสทางการศึกษา เพื่อพัฒนาอาชีพ
ดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
วิสัยทัศน์
คนตำบลป่ากลาง ได้รับการศึกษาตลอดชีวิตและการศึกษาเพื่อการมีงานทำที่มีคุณภาพได้ทุกที่มีคุณภาพได้ทุกที่
ทุกเวลาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน
เพื่อให้เกิดสังคมฐานความรู้และการพัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืน
อัตลักษณ์
ผู้เรียนมีวิถีชีวิตพอเพียง
เอกลักษณ์
ส่งเสริมการอ่าน
การทำผ้าเขียนเทียน
ขั้นตอนการผลิตสินค้า
1. เตรียมอุปกรณ์วัสดุในการทำผ้าเขียนเทียน
ประกอบด้วย ผ้าดิบ ตัวเขียน เทียน กะละมัง ถ่าน ขี้เถ้า ไม้บรรทัด ดินสอหรือปากกา และหมักขี้เถ้าไว้
1
คืน กรองเอาน้ำออกด้วยผ้า เอาเศษถ่านขี้เถ้าทิ้ง
2. ตั้งกะละมังต้มเทียนให้ละลายพอดี
ร่างภาพโดยใช้ดินสอหรือปากกาขีดเส้นบนผ้าดิบตามขนาดและลายผ้าที่ต้องการ
3. ทำการเขียนลายเทียนบนผ้าทั้งผืนให้ทั่ว
โดยใช้ตัวเขียน (ซันติ่ง ) หรือแม่พิมพ์จุ่มลงไปในกะละมังต้มเทียนแล้วนำมาเขียนที่ผ้าที่เตรียมไว้เมื่อเขียนลายเสร็จแล้วไปแช่น้ำ
1
คืน
4. เตรียมน้ำแช่ครามในถังหรือโอ่งให้พอดีกับผ้าที่เตรียมไว้
5. ต้มน้ำร้อนและเตรียมสีครามมาละลายในน้ำต้ม
ผสมให้เข้ากันและเทลงไปในโอ่งหรือถังที่เตรียมไว้แล้วนำผ้าดิบที่ทำการเขียนเทียนลงลวดลายที่ต้องการแล้ว
มาแช่ในโอ่งหรือถังสีคราม ขย้ำให้ทั่วโดยใช้มือหรือไม้คนก็ได้แช่ไว้ประมาณ 30
นาที
6. นำผ้าที่แช่สีครามออกมาปั้นให้น้ำออกจากผ้า
จากนั้นนำไปตากให้แห้ง( ไม่ควรตากแดดจัด ) ให้วิธีตากลมหรือในที่ร่มก็ได้
พอแห้งแล้วนำมาย้อมตามขั้นตอนที่ 5 อีกครั้ง
ทำซ้ำ 4 – 5 ครั้งหรือจนกว่าจะได้สีครามตามที่ต้องการ
แล้วตากให้แห้ง
7. นำผ้ามาพักไว้ประมาณ
2
– 3 วัน แล้วนำไปสู่ขั้นตอนการต้มเทียน โดยการที่เราต้มน้ำให้เดือด
แล้วนำเอาผ้าเขียนเทียนที่ย้อมสีครามเสร็จเรียบร้อยแล้วไปจุ่มน้ำเย็นก่อนนำไปต้มในน้ำร้อนให้ทั่วผืน
เพื่อเป็นการละลายเทียนที่ติดอยู่ที่ผ้าให้ออกให้หมด (
สังเกตว่าไม่มีเทียนติดอยู่ที่ผ้าแล้ว ) จึงนำผ้าออก
8. ขณะที่ต้มผ้าในน้ำร้อนอยู่นั้นให้เตรียมน้ำใส่กะละมังไว้
ประมาณ 3
กะละมัง เพื่อเอาผ้าที่ทำการต้มเสร็จแล้วออกมาแช่ในน้ำเย็น
เพื่อล้างเทียนที่อาจติดผ้าอยู่ออกให้หมดทั้งสองด้าน ใช้มือลูบออกจนหมดทั่วทั้งผืนแล้วนำไปตากให้แห้งไม่ควรตากในเวลาที่แดดจัด
9. เตรียมน้ำร้อนไว้
แล้วเอาแป้งมันละลายในน้ำเย็น
แล้วเทลงในน้ำร้อนที่เตรียมไว้คนให้เข้ากันไม่ให้เหนียวหรือจางเกินไปให้พอดีๆ
แล้วนำผ้าที่ล้างเทียนออกหมดแล้วมาแช่ไว้ประมาณ 5 นาที
10. นำไปตากให้แห้ง
(ไม่ควรตากในเวลาที่แดดจัด )
เมื่อแห้งแล้วนำมาพับเก็บไว้เพื่อรอนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น
นำไปตัดเย็บเป็นเสื้อหรือกระโปรง
ขั้นตอนการเขียนลายโดยใช้ตัวเขียน
หรือแม่พิมพ์จุ่มลงไปในกะละมังต้มเทียนแล้วนำมาเขียนที่ผ้า
นำผ้าดิบที่ทำการเขียนเทียนลงลวดลายที่ต้องการแล้ว มาแช่ในโอ่งหรือถังสีคราม ขย้ำให้ทั่วโดยใช้มือหรือไม้คนก็ได้แช่ไว้ประมาณ 30 นาที
นำไปตากให้แห้ง( ไม่ควรตากแดดจัด ) ให้วิธีตากลมหรือในที่ร่มก็ได้ พอแห้งแล้วนำมาย้อมตามขั้นตอนที่ 5 อีกครั้ง ทำซ้ำ 4 – 5 ครั้งหรือจนกว่าจะได้สีครามตามที่ต้องการ แล้วตากให้แห้ง
ขั้นตอนการต้มเทียน โดยการที่เราต้มน้ำให้เดือด แล้วนำเอาผ้าเขียนเทียนที่ย้อมสีครามเสร็จเรียบร้อยแล้วไปจุ่มน้ำเย็นก่อนนำไปต้มในน้ำร้อนให้ทั่วผืน เพื่อเป็นการละลายเทียนที่ติดอยู่ที่ผ้าให้ออกให้หมด ( สังเกตว่าไม่มีเทียนติดอยู่ที่ผ้าแล้ว ) จึงนำผ้าออก
เตรียมน้ำใส่กะละมังไว้ ประมาณ 3 กะละมัง เพื่อเอาผ้าที่ทำการต้มเสร็จแล้วออกมาแช่ในน้ำเย็น
เพื่อล้างเทียนที่อาจติดผ้าอยู่ออกให้หมดทั้งสองด้าน ใช้มือลูบออกจนหมดทั่วทั้งผืนแล้ว
นำไปตากให้แห้งไม่ควรตากในเวลาที่แดดจัด
ผลงาน/ชิ้นงาน
ข้อมูลพื้นฐานตำบลป่ากลาง
ที่ตั้ง
ที่ตั้งและอาณาเขต
กศน.
ป่ากลางอยู่ทางทิศเหนือของจังหวัดน่าน
อยู่ห่างจากอำเภอปัว ประมาณ 6 กิโลเมตร อยู่ห่างจากอำเภอเมือง จังหวัดน่าน ประมาณ 66 กิโลเมตร แยกมาจากตำบลศิลาแลงเมื่อปี พ.ศ.2535 มีพื้นที่ตำบลรวมตำบลป่ากลางมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 21.87 ตารางกิโลเมตร ( 13,670.99
ไร่ ) และอำเภอใกล้เคียงดังนี้
ทิศเหนือ ติดกับ ต.ศิลาแลง, ต.วรนคร อ.ปัว จ.น่าน
ทิศใต้ ติดกับ ต.ศิลาเพชร อ.ปัว จ.น่าน
ทิศตะวันออก ติดกับ ต.ศิลาแลง อ.ปัว จ.น่าน
ทิศตะวันตก ติดกับ ต.ปัว อ.ปัว, ต.ยม อ.ท่าวังผา จ.น่าน
ทิศใต้ ติดกับ ต.ศิลาเพชร อ.ปัว จ.น่าน
ทิศตะวันออก ติดกับ ต.ศิลาแลง อ.ปัว จ.น่าน
ทิศตะวันตก ติดกับ ต.ปัว อ.ปัว, ต.ยม อ.ท่าวังผา จ.น่าน
โครงสร้างพื้นฐาน
การศึกษา
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 2 แห่ง
1. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านป่ากลาง จำนวน ครูผู้ดูแลเด็ก 9 คน จำนวนเด็ก 95
คน
2. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านตาหลวง
จำนวน ครูผู้ดูแลเด็ก 4 คน จำนวนเด็ก 170 คน
โรงเรียนประถมศึกษา 2 แห่ง
1. โรงเรียนป่ากลางมิตรภาพที่ 166
2.
โรงเรียนสหราษฎร์บำรุง
โรงเรียนมัธยมศึกษา 1 แห่ง
โรงเรียนมัธยมป่ากลาง
โรงเรียนอาชีวศึกษา - แห่ง
โรงเรียน / สถาบันชั้นสูง - แห่ง
ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน 6 แห่ง
/ ห้องสมุดประชาชน
กศน.ตำบล 1 แห่ง
สถาบัน
และองค์กรศาสนา
-
วัด/สำนักสงฆ์ 1 แห่ง
ประชาชนถือพุทธ ร้อยละ 80
-
โบสถ์คริสต์ 5 แห่ง ประชาชนถือคริสต์ ร้อยละ 20
สาธารณสุข
- รพ.สต.ป่ากลาง
1 แห่ง
-
ร้านขายยาแผนปัจจุบัน 2
แห่ง
-
โรงพยาบาลของรัฐ - แห่ง
-
อัตราการมีการใช้ส้วมราดน้ำ
ร้อยละ 90
ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
- หน่วยบริการประชาชนของสถานีตำรวจภูธร อำเภอปัว
ประจำตำบลป่ากลาง จำนวน 1 แห่ง
- ศูนย์ อปพร. อบต.ป่ากลาง จำนวน
1 แห่ง
- ชรบ./ตำรวจบ้าน จำนวน
6 แห่ง
- รถดับเพลิงขององค์การบริหารส่วนตำบลป่ากลาง จำนวน 1 คัน
- รถกู้ชีพกู้ภัยฉุกเฉิน (EMS) จำนวน 1 คัน
- สมาชิก อปพร. องค์การบริหารส่วนตำบลป่ากลาง จำนวน 153 คน
การคมนาคม
- ตำบลป่ากลาง มีสภาพถนนใช้ติดต่อกับระหว่างตำบลยังไม่ค่อยสะดวกนักเพราะเส้นทางมีหลายสายที่ยังไม่มีการก่อสร้างปรับปรุงให้สะดวกขึ้นและเส้นทางที่ใช้ติดต่อกับอำเภอปัว
มีจำนวน 1 เส้นทาง
-
ตำบลป่ากลาง ยังมีถนนในหมู่บ้านที่ยังไม่ได้รับการก่อสร้างอีกบางส่วน
ซึ่งส่วนใหญ่จะมีการดำเนินการก่อสร้างเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็กในทุกหมู่บ้านเกือบเต็มพื้นที่แล้วเพราะตำบลป่ากลางมีปริมาณพื้นที่เพียง
21 ตารางกิโลเมตรเมื่อเทียบกับตำบล อื่นๆ
แล้วถือว่าน้อยมาก จึงทำให้การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานของตำบล ป่ากลางเกือบสมบูรณ์ทั่วพื้นที่
การโทรคมนาคม
- ตู้โทรศัพท์สาธารณ จำนวน 12 ตู้
การไฟฟ้า
ครบทั้ง 6 หมู่บ้าน
จำนวนประชากรทีใช้ไฟฟ้าคิดเป็นร้อยละ
100
แหล่งน้ำธรรมชาติ
- ลำห้วยที่มีน้ำเกือบตลอดปี 1
สาย คือ ห้วยน้ำหมู
-
ลำห้วยที่มีน้ำแต่ช่วงฤดูฝน จำนวน
2 สาย คือ
ห้วยน้ำป้าว และ ห้วยน้ำฮาว
แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
- บ่อน้ำตื้น
จำนวน 170 บ่อ
-
บ่อโยก จำนวน 4 บ่อ
(ใช้การไม่ได้)
- อ่างเก็บน้ำ/ สระเก็บน้ำ จำนวน
10 แห่ง ( อ่างนิวซีแลนด์ ,
อ่างรถไถ, อ่างห้วยน้ำหมู,
อ่างต้นมื่น,
อ่างห้วยน้ำหมู 2, อ่างห้วยปลากั้ง (อ่างหก), อ่างห้วยทรายขาว, สระห้วยน้ำป้าว, สระกสช.หมู่
4, หมู่ 6
ทรัพยากรธรรมชาติ
- ป่าชุมชน
จำนวน 2 แห่ง
(บ้านป่ากลาง 45 ไร่,บ้านจูน – บ้านตาหลวง 25
ไร่)
-
ทรัพยากรป่าไม้ มีอยู่น้อย เนื่องจากตำบล ป่ากลาง
มีพื้นที่อยู่น้อยแต่มีจำนวนประชากรมาก และพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกรรม
การทำสวนผลไม้เป็นส่วนใหญ่
-
แหล่งน้ำในตำบลป่ากลาง มีอยู่จำกัด
เพราะเป็นพื้นที่สูงขาดแคลนน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติเป็นลำห้วยขนาดเล็กเป็นส่วนใหญ่ จะมีน้ำเฉพาะในช่วงฤดูฝนเท่านั้น อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นจะมีลักษณะตื้นเขิน
ในฤดูแล้งสภาพทั่วไปมักขาดแคลนน้ำประชาชนมักจะไปขนน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติในตำบลข้างเคียงสำหรับการใช้อุปโภค
– บริโภคทุกๆปี
ประชากร
จำนวนประชากรทั้งหมด 8,538 คน
ประชากรชาย 4,449 คน
ประชากรหญิง 4,193 คน
มีความหนาแน่นเฉลี่ย 516 คน / ตารางกิโลเมตร จำแนกได้ดังนี้
บ้าน
|
หมู่
|
จำแนกช่วงอายุ ( ปี )
|
รวม
|
รวม
|
||||||||||||||||
0
- 5
|
6 -
14
|
15
- 39
|
40
- 59
|
60
- 69
|
70
- 79
|
80
- 89
|
90
|
|||||||||||||
ชาย
|
หญิง
|
ชาย
|
หญิง
|
ชาย
|
หญิง
|
ชาย
|
หญิง
|
ชาย
|
หญิง
|
ชาย
|
หญิง
|
ชาย
|
หญิง
|
ชาย
|
หญิง
|
ชาย
|
หญิง
|
|||
บ้านน้ำเปิน
|
1
|
111
|
83
|
123
|
123
|
604
|
235
|
92
|
76
|
34
|
41
|
34
|
23
|
12
|
2
|
3
|
1
|
1,013
|
584
|
1,597
|
บ้านห้วยสะนาว
|
2
|
38
|
42
|
72
|
50
|
262
|
258
|
116
|
117
|
28
|
27
|
19
|
22
|
7
|
9
|
3
|
6
|
545
|
531
|
1,076
|
บ้านค้างฮ่อ
|
3
|
130
|
117
|
174
|
177
|
511
|
572
|
179
|
184
|
48
|
44
|
17
|
23
|
8
|
16
|
3
|
7
|
1,017
|
1,140
|
2,157
|
บ้ายจูน
|
4
|
24
|
29
|
38
|
34
|
140
|
140
|
99
|
101
|
23
|
29
|
15
|
9
|
1
|
11
|
1
|
0
|
341
|
353
|
694
|
บ้านตาหลวง
|
5
|
27
|
28
|
26
|
22
|
109
|
104
|
76
|
65
|
12
|
17
|
9
|
9
|
4
|
6
|
4
|
1
|
267
|
252
|
519
|
บ้านสวนทราย
|
6
|
172
|
155
|
234
|
216
|
563
|
657
|
158
|
190
|
33
|
39
|
20
|
29
|
12
|
13
|
2
|
2
|
1,194
|
1,301
|
2,495
|
รวม
|
502
|
454
|
667
|
622
|
2,261
|
2,016
|
720
|
733
|
178
|
197
|
114
|
115
|
44
|
57
|
16
|
17
|
4,449
|
4,193
|
8,538
|
|
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)